สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก (ซองคา: ?????????????; Wylie: rje btsun padma; อังกฤษ: Ashi Jetsun Pema Wangchuck) ประสูติเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2533 ที่กรุงทิมพู ประเทศภูฏาน เป็นสมเด็จพระราชินีในสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีได้ทรงประกาศอย่างเป็นทางการ ซึ่งพระองค์เป็นนักศึกษาวัยยี่สิบเอ็ดพรรษา ทั้งสองพระองค์มีกำหนดอภิเษกสมรสในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 โดยอภิเษกสมรสจัดขึ้นในวันที่ 13 ตุลาคม
สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก ทรงเป็นธิดาคนที่สองจากจำนวนพี่น้องห้าคนของนายธอนทุบ กยอลเซน กับนางโซนัม ชูกี โดยพระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่ประเทศภูฏาน ก่อนที่จะเสด็จไปทรงศึกษาต่อที่ลอว์เรนซ์สคูล ในซานาวาร์ หิมาจัลประเทศ และที่เซนต์โจเซฟคอนแวนต์ ในกาลิมพง ประเทศอินเดีย ในภายหลังได้ทรงศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรีเจนต์คอลเลจ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พระองค์ทรงมีความสนพระทัยในงานศิลปะเรอเนซองส์ และมีงานอดิเรกคือการถ่ายภาพเช่นเดียวกับสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี รวมทั้งพระองค์ยังโปรดฟังเพลงพื้นเมืองด้วยเช่นกัน
ในวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีได้ทรงประกาศอย่างเป็นทางการว่าพระองค์จะอภิเษกสมรสกับ เจตซุน เพมา ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 การอภิเษกสมรสจะจัดขึ้นในรูปแบบดั้งเดิมด้วยตามพระพรของอารักษ์ ทั้งนี้เจตซุน เพมา ได้โดยเสด็จไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศแล้วในขณะนี้
งานอภิเษกสมรสถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ตุคม พ.ศ. 2554 ณ พูนาคาซอง (Punakha Dzong) และมีการเฉลิมฉลองตามหัวเมืองใหญ่ อันได้แก่พูนาคา, ทิมพู และพาโร และได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน โดยพระราชพิธีอภิเษกสมรสครั้งนี้แม้จะจัดแบบดั้งเดิม แม้ว่าภูฏานจะมีประเพณีหลายเมีย แต่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีได้ตรัสว่าพระองค์จะไม่อภิเษกสมรสกับสตรีนางใดอีก และจะมีเพียงแต่เจตซุน เพมา เป็นพระชายาในอนาคตเท่านั้น
ปลายปี พ.ศ. 2558 หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในภูฏานได้ลงข่าวว่าสมเด็จพระราชินีทรงพระครรภ์ และมีกำหนดที่จะประสูติกาลพระราชบุตรช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 จนวันที่ 5 กุมภาพันธ์จึงให้ประสูติการพระราชโอรส
สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก ทรงมีความสนพระทัยในงานศิลปะ, จิตรกรรม และกีฬาบาสเกตบอล ซึ่งพระองค์เคยทรงดำรงตำแหน่งกัปตันทีมบาสเก็ตบอล และเคยได้รับการถวายรางวัลการพูดในที่ชุมชนอีกด้วย